วันพุธที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

คำกริยาแท้ ( Finite Verbs) และกริยาไม่แท้ ( Non-finite Verbs)
Finite Verbs  ( คำกริยาแท้ ) ทำหน้าที่แสดงกริยาอาการที่แท้จริงของประธานในประโยคมีการเปลี่ยนรูปไปตาม Subject , Tense, Voice และ Mood  เช่น
Subject
I go to school every day
He goes to school every day
They go to school every day
Tense
He goes to school every day
He went to school  yesterday
He’s going to school tomorrow
Voice
Someone killed the snake. ( Active )
The snake was killed. ( Passive )
Mood
I recommend that he see a doctor.
(
ไม่ใช่ ่he sees )
If I were you, I would not do it.
(
ไม่ใช่ I was )
Non-finite Verbs  ( คำกริยาไม่แท้ )หรือ Verbal  เป็นคำที่มีรูปจากคำกริยาแต่ไม่ได้ทำหน้าที่คำกริยาแท้ มี รูปคือ

a. Infinitives  เป็นคำกริยาที่อยู่ในรูปกริยาช่องที่ 1 นำหน้าด้วย to ทำหน้าที่ noun , adjective  และ adverbHe lacked the strength to resist.
( to resist
ทำหน้าที่ adjective)
We must study to learn.
( to learn
ทำหน้าที่ adverb) b. Gerunds    เป็นคำกริยาเติม ing  ทำหน้าที่เป็นคำนาม ( noun ) เช่นThey do not appreciate my singing.
พวกเขาไม่ชอบการร้องเพลงของฉัน  ( singing  เป็นคำนามที่ทำหน้าที่เป็นกรรม )
I like swimming.
ฉันชอบว่ายน้ำ.  ( swimming  เป็นกรรมของ like ) c. Participles  คำกริยาที่เติม ing  หรือ กริยาช่องที่ 3   ที่ทำหน้าที่เป็นคำคุณศัพท์ ( Adjective )  มี 2 รูปแบบคือ* Present Participles   เป็นคำกริยาที่เติม ing  เช่น
The crying baby had a wet diaper.
เด็กที่ร้องอยู่นั้นผ้าอ้อมเปียก  ( crying เป็นคำคุณศัพท์ขยาย baby )* Past Participles  เป็นคำกริยาช่องที่เช่นThe broken bottle is on the floor. อ่านเพิ่ม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น